เพราะอะไรถึงไม่ได้ เพราะว่าวัตถุประสงค์ของการทำบุญอุทิศ บุญที่ผู้เป็นญาติจะพึงอุทิศไปให้ญาติอีกภพ ภูมิมีลักษณะเหมือนเป็นอาหาร อย่าได้ประมาทไปเลยว่าเราเกิดในตระกูลที่มีเงินมาก ไม่ต้องทำความดีตอนนี้ พอเราตาย ญาติ ลูกหลานก็ทำบุญส่งไปให้ เราอยากขึ้นสวรรค์ชั้นไหนก็ให้ญาตลูกหลานทำบุญส่งไปให้ หาก ทำบุญมาก ก็จะขึ้นที่เดียวหลายชั้น ถ้ามีทรัพย์สมบัติมากกว่านั้น ก็จะไก้เลื่อนชั้นขึ้นที่สูงๆขึ้นไป จริงๆ มิใช่เช่นนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่ไม่ควรประมาทคือ ท่านทั้งหลายต้องทำความดีเองก่อน ส่วนบุญที่ ญาติ หรือลูกหลานอุทิศไปให้ จะเป็นส่วนเฉพาะบรรเทาความทุกข์เดือนในภพภูมิจำกัดเท่านั้น หมายความว่า ผู้ที่จะรับส่วนบุญได้จะต้องไปอยู่ในอบายภูมิ หากจะพูดให้ชัด คือต้องอยู่ในนรก ปละต้องเป็น "ปรทัตตูปชีวีเปรต" เท่านั้นจึงจะส่งหรืออุทิศไปให้นั้นจึงจัดอยู่ใน ฐานะที่รับได้ก็มี รับไม่ได้ก็มี ซึ่งถ้าเขาอยู่ใน ฐานะต้องการส่วนบุญเขาจะรับส่วนบุญได้ แต่อยู่ในฐานะรับส่วนบุญไม่ได้ เขาก็ไม่สามารถรับได้ หากเรียกเป็น ภาษาพระเรียกว่า หากอยู่ในฐานะ รับได้ ถ้าอยู่ใน อฐานะ รับไม่ได้ สรุปง่ายๆคือ ถ้าอยู่ในฐานะ คือพวกเปรต "ปรทัตตูปชีวีเปรต" ต้องอาศัยส่วบุญที่ญาติอุทิศไปให้ เพราะฉนั้น รับได้ก็บรรเทาความทุกอันเกิดจากความทรมาน หิวโหยได้บ้าง แต่จะให้ผู้ที่อยู่ข้างหลัง อุทิศส่วนบุญไปให้เขาเพื่อที่จะให้เขาไปเกิดในภพภภูมิที่สูงขึ้นไปว่านั้น มันคนละประเด็นกัน บุญอุทิศไม่สามารถยกระดับของผู้ที่เสียชีวิตนั้นให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีได้ ถ้าไม่อย่างนั้น มันไม่ ยุติธรรมนะว่าไหม มันจะยุติธรรมไหม ถ้าเกิดคนทำความชั่วสารพัดเลย แต่บังเอิญว่าลูกหลานอยู่ข้างหลังมีเงินมาก แล้วก็ทำบุญ แล้วก็อุทิศส่วนกุศลส่งไปให้ หากทำได้อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าผู้ที่ทำความชั่วมากๆตอนเป็นมนุษย์ พอตาายไปแล้วลูกหลานทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ เหมือนอัดฉีดเงินข้ามภพข้ามชาติไปให้เขาขึ้นสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นๆ เพราะผลบุญที่ลูกหลานส่งไปให้ ไม่ใช่ |