นะโมขลังดอทคอม

        

 

ชาดกคืออะไร
ครูแก้ว : เขียน

พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปตีความหมายของคำว่าชาดกว่าหมายถึง “เรื่องราวในอดีตชาติของพระพุทธเจ้า” เมื่อเป็นเรื่องราวในอดีตชาติ ก็แสดงว่าพระพุทธเจ้าสอนให้คนเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดหรืออย่างไร ? น่าจะขัดแย้งกับหลักธรรมคำสอนในศาสนาพุทธที่ให้ยึดหลักแห่งเหตุผลหรือไม่ เป็นข้อข้องใจที่เคยมีผู้ตั้งข้อสังเกตกับผู้เขียน
ผู้เขียนจึงขอนำเสนอความรู้และแสดงความคิด เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่อาจช่วยคลายความสงสัยใจลงได้บ้างดังต่อไปนี้ จะถูกหรือผิดก็เป็นเพียงความคิดเห็นซึ่งท่านผู้อ่านสามารถโต้แย้งได้
คำว่า “ชาดก” แปลตามรูปศัพท์ว่า เรื่องที่เกิดแล้ว เรื่องที่เกิดมาแล้วนั้นอาจไม่จำเป็นว่า “เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เกิดในสมัยไหน” แต่มักเป็นเรื่องที่คนมักมาตีความเอาว่า “เกิดในอดีตชาติ” และเป็นอดีตชาติของพระพุทธเจ้า ในที่นี้ ผู้เขียนจะขอตีความว่าเรื่องชาดกทั้งหลายซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสเล่าให้ฟังด้วยพระองค์เองนั้นอาจจะเกิดในสมัยที่พระพุทธองค์ทรงดำรงพระยศเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ หรือเกิดขึ้นในขณะแสวงหาความรู้แจ้งเห็นจริง หรือ เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็ได้ เป็นกลวิธีในการสอนบุคคลอย่างหนึ่งของพระพุทธเจ้าที่ทรงยกเรื่องราวของพระองค์มาเทียบเคียง เพื่อให้เห็นถึงความพากเพียรในการประกอบคุณงามความดีว่าต้องอาศัยความพากเพียรที่แน่วแน่ไม่หวั่นไหวและได้สร้างสมมาอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาที่ยาวนาน ในการสอนบุคคล พระพุทธองค์ทรงใช้จิตวิทยาหลายแง่หลายมุม คือ
กำหนดรู้บุคคลที่จะสอนและรู้ปัญหาของผู้ที่จะสอนก่อน
เลือกคุณธรรมให้เหมาะกับบุคคลและปัญหาของบุคคลนั้น
ใช้วิธีสอนแบบอุปมาอุปไมย
ใช้วิธีสอนโดยวิธีปุจฉาวิสัชนา คือ ถาม – ตอบ
ใช้วิธีสอนโดยทรงทำพระองค์เป็นตัวอย่างก่อน
แต่ละวิธีพระพุทธองค์จะทรงเลือกเรื่องที่คล้าย ๆ กับชีวิตของพระองค์ หรืออาจเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วก็ได้ มาเล่าโดยใช้วิธีเลียบ ๆ เคียง ๆ ยกเป็นนิทานเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ อันเป็นวิธีที่หลีกเลี่ยงการยกยอตัวเอง คนฟังศรัทธาผู้พูดอยู่แล้ว เมื่อเป็นเรื่องที่ผู้เล่าบอกว่าเป็นเรื่องในอดีตชาติของผู้เล่า ความเลื่อมใสศรัทธาก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น เหมือนคนเราในปัจจุบันนี้ที่ถ้ารักและศรัทธาใครเราก็จะเลื่อมใสเชื่อฟังผู้นั้น เช่น ถ้าพ่อแม่ประพฤติตนเป็นตัวอย่างที่ดีของลูก ลูกก็จะเชื่อฟัง ยึดถือความประพฤติของพ่อแม่เป็นแบบอย่าง ลูกชายก็จะซึมซับบุคลิกท่าทางของพ่อเอาไว้ ลูกสาวจะสนิทสนมและซึมซับแบบอย่างความเป็นกุลสตรีที่ดีจากแม่ เยาวชนทั้งหลายก็เช่นกันเมื่อเกิดความรักศรัทธาผู้ใหญ่คนใด ก็มักจะนำแบบอย่างพฤติกรรมที่ดีมาประพฤติปฏิบัติ ถ้าผู้ใหญ่ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีก็จะเหมือนกับ “แม่ปูสอนลูกปู” การแนะสั่งสอนก็จะไม่เกิดประสิทธิผล
ชาดกมีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกซึ่งเป็นคัมภีร์สำคัญของพุทธศาสนา มาจากคำว่า “ ไตร” แปลว่า สาม + ปิฎก หมายถึงตะกร้าหรือคัมภีร์ ประกอบด้วย
“พระวินัยปิฎก” ซึ่งว่าด้วยวินัยหรือศีลของพระภิกษุและภิกษุณี
“พระสุตันตปิฎก” ว่าด้วยพระธรรมเทศนาทั่ว ๆ ไป และ
“พระอภิธรรมปิฎก” ว่าด้วยธรรมชั้นสูง
ส่วนประเภทของชาดก มี ๒ ประเภท คือ นิบาตชาดก ถือว่าเป็นพุทธวจนะที่แท้จริงมีอยู่ในพระไตรปิฎก ๕๔๗ เรื่อง คนทั่วไปนิยมเรียก “พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ” และ พาหิรกชาดก (ปัญญาสชาดก) มี ๕๐ เรื่อง ไม่ได้อยู่ในพระไตรปิฎก จึงเรียกกันว่า “ชาดกนอกนิบาต” เป็นการนำเอานิทานสุภาษิตหรือนิทานอิงธรรมะเก่าแก่ที่เล่าสืบต่อกันมาในประเทศไทยตั้งแต่ครั้งโบราณทั้งภายในและนอกประเทศ มีพระภิกษุชาวเชียงใหม่รวบรวมแต่งไว้เป็นภาษามคธ เนื้อเรื่องมีความละเอียดพิสดาร ผู้แต่งพยายามนำนิทานทั้งหมดนี้เข้าไปเป็นเรื่องของพระพุทธเจ้าจนแทบกลายเป็นเรื่องชาดก ชาวบ้านก็เข้าใจและเชื่อถือ
ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะเล่าเรื่องในอดีตชาติให้ใครฟังนั้นต้องมีคน “อาราธนา” คือ ขอร้องให้เล่าก่อน พระพุทธองค์จึงทรงเล่า ดังเช่นเมื่อครั้งเสด็จไปประทับที่วัดนิโครธาราม เมืองกบิลพัสดุ์เพื่อโปรดพระประยูรญาติ มีพระประยูรญาติบางส่วนแสดงทิฐิไม่เคารพพระพุทธเจ้า พระองค์จึงทรงแสดงพระปาฏิหาริย์ มีฝนโบกขรพรรษตกลงมา ฝนนี่เป็นพิเศษ มีสีแดงดุจทับทิม ใครไม่อยากให้เปียกก็จะไม่เปียก เมื่อตกลงมาก็จะไม่ขังนองเหมือนฝนทั่วไป พระสงฆ์สาวกทั้งหลายที่มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าอยู่ ณ ที่นั้นต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่เคยเห็นฝนชนิดนี้ตกมาก่อนเลย” พระพุทธเจ้าตรัสว่าเคยตกมาแล้วเมื่อสมัยที่พระองค์เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร พระสงฆ์ทั้งหลายจึงอาราธนาให้เล่า
ชาดกจะเป็นเรื่องราวในอดีตชาติ ของพระพุทธเจ้าจริงหรือไม่นั้น ไม่สำคัญ สำคัญที่เมื่อเราอ่านหรือศึกษาเรื่องราวในชาดก เราสามารถวิเคราะห์หลักธรรมคำสอนที่แฝงอยู่ในชาดกเหล่านั้นแล้วนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไรบ้างต่างหาก

 

อ่านต่อ


 

 พุทธศาสดา

ธรรมศึกษาวัดสะพานสูง

เพื่อนบ้าน

ธรรมะเดลิเวอรี่

ฟังธรรมดอทคอม

พระสมรักษ์  ญาณธีโร

พระปิยะโรจน์

jozho.net

 

กระดานข่าว 

 

    Copyright (c) 2009 by Namokhlang.com

 

Powered by AIWEB